..จากวันนั้นจนถึงวันนี้..จากนี้และตลอดไป..
โควิดสิบเก้าระลอกใหม่นี้สร้างความเสียหายยับเยินไปทั่วทุกย่อมหญ้าทุกวงการทั่วประเทศรวมถึงในวงการบันเทิงที่โดนกันอย่างแพร่หลายและบังเกิดความสูญเสียอย่างคาดไม่ถึงกับบุคคลในวงการตลกอันเป็นที่รักของผู้คนกับโพสต์แจ้งข่าวร้ายว่า “คุณพ่อหลับสบายแล้วนะคะ” ของผู้เป็นลูกสาวที่หัวใจแตกสลายเมื่อพ่อผู้เป็นที่รักได้พยายามต่อสู้กับเจ้ามฤตยูโควิดสิบเก้ามาตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนและอาการทรุดลงเรื่อย ๆ สุดท้ายก็สู้ไม่ไหวและเสียชีวิตในที่สุดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ที่ผ่านมาท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของหลายฝ่ายหลากหลายวงการเนื่องจากผู้ตายเป็นคนนิสัยดีไม่เคยคิดร้ายและไม่มีพิษมีภัยกับใครอีกทั้งยังมีความตั้งใจทำงานและมีความรับผิดชอบแม้จะอ่านหนังสือไม่ออกอันเป็นข้อด้อยแต่ก็มีข้อดีมาทดแทนคือสามารถจดจำบทได้อย่างแม่นยำถูกต้อง รวมทั้งอุปนิสัยที่น่ารักยิ้มแย้มแจ่มใสจึงเป็นคนที่ใคร ๆ ก็อยากที่จะให้เขาด่าเพราะว่าเขามาพร้อมกับธรรมชาติของความเป็นตลกที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ทั้งหน้าตาท่าทางการแสดงออกโดยเฉพาะสำเนียงลีลาและสำนวนการพูดที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองกับใครคนนี้ "น้าค่อม ชวนชื่น"
1. วันวานที่ผ่านมา (Past)
จากที่เรียนตามปกติน้าค่อมก็ตัดสินใจทิ้งการเรียนและเข้าสู่วงการลิเกตั้งแต่ครั้งยังเด็กตามอาชีพของพ่อแม่และได้เล่นเป็นตัวโจ๊กลิเกที่เหมาะสมกับบุคลิกส่วนตัวของน้าค่อมเองโดยได้พเนจรเล่นตามคณะลิเกหลายคณะและเป็นคณะที่มีชื่อเสียงโดยส่วนใหญ่ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งจนต่อมาโชคชะตาก็ได้นำพาน้าค่อมเข้ามาสู่วงการตลกและได้เข้ามาเป็นหนึ่งในคณะชวนชื่นกลายเป็น "ค่อม ชวนชื่น" ในเวลาต่อมาและด้วยลักษณะที่ฟันยื่นอย่างชัดเจนจึงมีฉายาเป็นที่รู้จักว่า "น้าเหยิน" อีกด้วย น้าค่อมและคณะชวนชื่นเป็นหนึ่งในหลากหลายคณะตลกที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์เสียงหัวเราะตั้งแต่เมื่อครั้งช่วงเวลาที่ยุคตลกคาเฟ่รุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลย์ที่เล่นติดต่อกันวันละหลายแห่งและเริ่มสะสมชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งจากนักเที่ยวคาเฟ่และผู้ชมที่ดูจากเทปวิดิโอ จนกระทั่งถึงวันที่คาเฟ่กลับล่มสลายกลายเป็นอดีตที่ยังมิอาจหวนกลับคืนมาซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงมากกับคนในวงการตลกคาเฟ่ในสมัยนั้นทำให้ตลกหลายคนต้องเปลี่ยนอาชีพเพื่อความอยู่รอด แต่น้าค่อมเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถก้าวข้ามจุดวิกฤติวันเวลานั้นมาได้ด้วยการพลิกชีวิตและเปลี่ยนบทบาทมาเป็นตลกจอเงินและได้ทำการแสดงภาพยนตร์มาแล้วกว่า 91 เรื่องและละครทีวีอีกราว 57 เรื่องโดยประมาณ รวมถึงรายการทีวีที่มาเป็นแขกรับเชิญและทำรายการตลกร่วมกับพี่น้องชาวตลกอีกหลายรายการซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีในความสำเร็จของน้าค่อมที่เกิดจากความสามารถที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน
2. วันนี้ที่ (ไม่ได้) รอคอย (Present)
จนมาถึงวันนี้ที่น้าค่อมเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทุกรุ่นทุกวัยแบบไม่มีใครที่จะไม่รู้จักผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างออกท้วม ๆ ไว้ผมสั้นติดหนังหัวแทบจะโล้นและมีเอกลักษณ์คือฟันเหยินที่มีลีลาการแสดงอย่างเป็นธรรมชาติที่วาดลวดลายและแสดงศักยภาพในการเล่นตลกจากความสามารถและพรสวรรค์ นอกจากนี้น้าค่อมยังมีวลีสบถที่เด็ดถูกใจใครต่อใครจนต้องนำมาพูดตามก็คือคำด่าที่ว่า "ไอ้สัส" ที่แม้ว่าคำนี้จะเป็นคำด่าที่ค่อนข้างรุนแรงแต่ด้วยน้ำเสียงหน้าตาลีลาและท่าทางของน้าค่อมที่แสดงออกมากลับเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากผู้ชมผู้ฟังได้ซึ่งหลายคนที่ได้มีโอกาสเจอะเจอก็อยากจะให้น้าค่อมด่าเพราะอยากได้ยินวาจาอย่างที่ว่าเพื่อนำมาซึ่งเสียงหัวเราะโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้ยิน ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าน้าค่อมนั้นเป็นหัวหน้าครอบครัวทำมาหากินด้วยลำแข้งลำขาด้วยหนึ่งสมองและสองมือเพื่อดูแลลูก ๆ และภรรยาสุดที่รักให้มีความสุขตามอัตภาพโดยไม่ขาดตกบกพร่องเสมอมาจนลูก ๆ ได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาและมีหลานชายหลานสาวให้น้าค่อมได้มีโอกาสดูแลประคบประหงมจนสนิทสนมกันตัวเป็นเกลียว แต่ว่าในท่ามกลางความสุขและความสำเร็จเหล่านี้ในอดีตนั้นน้าค่อมเคยมีอาการน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูง มีอาการเส้นเลือดในสมองตีบและปอดอักเสบจนต้องเข้ารับการรักษาเป็นการเร่งด่วน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์โควิดสิบเก้าระบาดอีกเป็นระลอกที่สามที่น้าค่อมติดเชื้อแล้วรีบเข้ารับการรักษาทันที แต่ทว่ามีอาการปอดอักเสบเพราะเชื้อโควิดได้ลงสู่ปอดจนมีผลกระทบต่อไตทำให้เกิดภาวะไตวายต้องได้รับการฟอกไตแล้วเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูและจากนั้นก็มีอาการทรุดลงตามลำดับจนกระทั่งทำให้น้าค่อมนั้นเสียชีวิตในที่สุด
3. วันพรุ่งนี้และตลอดไป (Future)้
เหตุการณ์นี้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องนั้นต่างก็ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดเพื่อยื้อชีวิตจากมัจจุราชที่ใช้โควิดสิบเก้าเป็นเครื่องมือในการพรากชีวิตน้าค่อมไปจากครอบครัวพี่น้องเพื่อนฝูงลูกหลานและเหล่าบรรดาแฟนคลับที่คอยติดตามผลงาน แต่ทุกคนย่อมมีกรรมเป็นของตนในเมื่อชีวิตของน้าค่อมถูกกำหนดให้มาดำเนินชีวิตในโลกใบนี้แค่ในวัย 63 ปี ถึงตอนนี้น้าค่อมก็คงไปสบายแล้วและคนที่เหลือก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปตามแต่กรรมของตนจะดลบันดาล ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีโอกาสได้เห็นน้าค่อมออกมาโลดแล่นเฉิดฉายทางจอเงินและจอแก้วอีกต่อไปแต่ผลงานที่ผ่านมาของน้าค่อมก็จะยังคงอยู่ในความทรงจำของทุกคนต่อไปโดยที่ยังคงสามารถติดตามผลงานในอดีตของน้าค่อมได้ตามสื่อโซเชี่ยลหลากหลายแขนงต่าง ๆ ซึ่งน้าค่อมนั้นนอกจากจะเป็นสามีและพ่อที่ดีที่มีความรับผิดชอบและรักครอบครัวเท่าชีวิตแล้วยังเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องเป็นลุงเป็นอาเป็นพ่อของใครต่อใครทั้งในวงการตลกและทุกวงการที่มีความเคารพนบนอบในตัวของน้าค่อมไม่เว้นแม้แต่กระทั่งผู้เป็นนายจ้างที่จ้างน้าค่อมไปทำงาน รวมถึงบรรดาแฟนคลับที่คอยติดตามผลงานของชายผู้ควรได้รับการสรรเสริญผู้นี้ที่ได้ใจจนเป็นที่รักของทุกคน
สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในชีวิตประจำวันกับวิถีชีวิตแบบนิวนอร์มัลจากมหันตภัยโควิดสิบเก้าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ธรรมชาติมักจะกำหนดขึ้นมาจัดการกับทุกอย่างให้เข้ารูปเข้ารอยตามแต่ละช่วงเวลาเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีตไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายโรคระบาดเข้ามารุกรานหรือว่าอาจมีเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ นานาและเมื่อใครก็ตามที่ชะตากรรมถูกกำหนดไว้แล้วครั้นเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นผลก็มักจะตามมาแต่ละอย่างที่อาจได้รับผลกระทบที่ไม่เหมือนกันมีมากบ้างน้อยบ้างหรืออาจมีการสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่เหมือนกับครอบครัวของน้าค่อมที่ ณ วันนี้ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวมาจากไปในขณะที่ภรรยาคู่ชีวิตยังคงเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลและลูกชายยังคงเข้ารับการกักตัวคงเหลือเพียงลูกสาวลูกเขยและหลานสาวเท่านั้นที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดการงานศพตามประเพณีซึ่งต้องรีบดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคซึ่งน่าเห็นใจต่อครอบครัวนี้ที่ต้องผจญกับวิกฤติโควิดสิบเก้าระลอกใหม่เป็นอย่างมากและเชื่อว่าอีกไม่นานเหตุการณ์ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเพราะ "ฟ้าหลังฝน" นั้นมีอยู่จริงและมีอยู่เสมอมาและท้ายที่สุดนี้ก็ขอให้ดวงวิญญาณของน้าค่อมนั้นจงไปสู่สุขคติไปยังภพภูมิที่เหมาะสมในสัมปรายภพและแน่นอนว่านับจากนี้ไปน้าค่อมจะยังคงอยู่ในใจของทุกคนอยู่เสมอและตลอดกาล..อำลา..อาลัย..ดาวตลกผู้ยิ่งใหญ่.."น้าค่อม..อาคม ปรีดากุล"..
เรื่องโดย นรชนไท
เครดิตภาพ
ภาพปก โดย na.kom_ จาก Instagram
ภาพที่ 1 โดย na.kom_ จาก Instagram
ภาพที่ 2 โดย na.kom_ จาก Instagram
ภาพที่ 3 โดย na.kom_ จาก Instagram
ความคิดเห็น